สิ่งต่างๆที่สมควรอยู่ในบ้านเราตามหลักความเชื่อของจีนแล้วนั้น มีอะไรบ้างกันวันนี้เราจะมาดูกันว่า สิ่งมงคลในบ้าน เราควรมีอะไรบ้าง
สิ่งมงคลในบ้าน
1. มังกร

มังกร (Dragon) เป็นสัตว์ในตำนานตามหลักความเชื่อของจีน อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในสัตว์เทพทั้งสี่ที่มีมาตั้งแต่โบราณ (มังกรเขียว หงส์แดง เสือขาว และ เต่าดำ) และ เป็นสัญลักษณ์ของจักรพรรดิจีนด้วย โดยว่ากันว่าถ้าหากใครมีมังกรอยู่ที่บ้าน จะช่วยเสริมเรื่องความมั่งคั่ง พลังอำนาจ และ ความโชคดี
หลักการตั้ง : ตามหลักฮวงจุ้ย มังกร ควรตั้งประดับไว้ทางทิศตะวันออกหรือทางด้านซ้ายของบ้าน (หากมองออกมาจากด้านใน) หรือบริเวณที่เป็นห้องนั่งเล่น ห้องกินข้าว และ ห้องทำงาน ห้ามวางไว้ในบริเวณที่มีพลังงานต่ำ เช่น ห้องน้ำ ห้องแต่งตัว หรือโรงจอดรถเด็ดขาด และ เนื่องจากมังกรเป็นสัตว์ที่ชอบน้ำมาก ดังนั้นถ้าหากบ้านของใครมีแหล่งน้ำหรือรูปภาพน้ำ ก็สามารถวางมังกรให้หันหน้าเข้าหาน้ำได้ค่ะ
เนื่องจากมังกรสื่อถึงคนที่ยิ่งใหญ่ เกรียงไกร ร่ำรวย และ แข็งแกร่งนั่นเอง ยิ่งไปกว่านั้นยังว่ากันว่า มังกรสามารถเสริมพลังชี่ให้กับตัวบ้านได้อีกต่างหาก
2. กิเลน

กิเลน (Qi Lin หรือ Chi Lin) เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าม้ามังกร หรือ ยูนิคอร์นจีน เป็นสัตว์มงคล มอบโชค ในตำนาน มีหัวเป็นมังกร ตัวเป็นม้า กีบเป็นกวาง และ ผิวเป็นเกล็ดปลา ซึ่งตามหลักฮวงจุ้ยเชื่อกันว่า กิเลนสามารถดูดซับพลังงานดี แบ่งแยกความดี และ ความชั่ว แถมยังซื่อสัตย์กับเจ้าของด้วย จึงถือเป็นวัตถุมงคลที่ช่วยคุ้มครองคนในบ้านจากความชั่วร้าย ช่วยเสริมความเจริญรุ่งเรือง และ ช่วยรักษาสุขภาพให้แข็งแรงได้ นอกจากนี้กิเลนหลายตัวยังมีสมบัติอยู่ที่อุ้มเท้า และ เหรียญอยู่ที่ปาก จึงเชื่อกันว่าช่วยนำความมั่งคั่ง ร่ำรวยมาสู่ผู้คนในบ้านได้อีกต่างหาก
หลักการตั้ง : ตำแหน่งการวางกิเลนที่เหมาะสมคือบริเวณห้องทำงาน ห้องนั่งเล่น หรือใกล้ประตูบ้าน โดยให้หันหน้าเข้าหาบริเวณที่มีคนอยู่เป็นประจำ และ อย่าวางไว้ในห้องนอน ห้องครัว หรือห้องน้ำเด็ดขาด
3. สิงห์คู่

สิงห์คู่ หรือ สิงโตคู่ (Fu Dogs) เป็นสัตว์ผู้พิทักษ์ตามความเชื่อของชาวจีน มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่สมัยโบราณ โดยว่ากันว่าผู้ที่มีอำนาจและ เงินทองจะวางสิงห์คู่ประดับไว้หน้าประตูทางเข้า เพื่อช่วยปกปักรักษาทรัพย์สิน และ คนในบ้าน จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมทุกวันนี้เราถึงเห็นสิงห์คู่เฉพาะในวัด สำนักงานรัฐ และ บ้านของตระกูลใหญ่เท่านั้น โดยลักษณะของสิงห์คู่ที่ดีควรมีทั้ง ตัวผู้ และ ตัวเมีย เพราะตัวผู้จะเหยียบโลกไว้ใต้อุ้งเท้าขวา เปรียบเสมือนการป้องกันบ้าน และ อาณาจักร ส่วนตัวเมียจะเหยียบลูกไว้ใต้อุ้งเท้าซ้าย เปรียบเสมือนการป้องกันจากสัญชาตญาณแม่
หลักการตั้ง : ส่วนบริเวณที่เหมาะจะวางสิงห์คู่มากที่สุด คือ บริเวณหน้าประตูบ้าน โดยให้ตัวเมียอยู่ทางซ้าย ตัวผู้อยู่ทางขวา (มองจากข้างนอกเข้าไปข้างใน) เพื่อให้สิงห์คู่ช่วยปกป้อง และ คุ้มครองคนในบ้านให้ปลอดภัย และ เป็นที่สะดุดตาสะดุดใจกับคนที่ผ่านเข้า-ออกบ้านนั่นเอง
4. ไฉ่ซิงเอี้ย

ไฉ่ซิงเอี้ย (Cai Shen) เป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภตามความศรัทธาของคนจีน โดยมีความเชื่อว่า องค์เทพไฉ่ซิงเอี้ยจะมายังโลกมนุษย์เพียงปีละหนึ่งครั้ง ซึ่งนั่นก็คือ วันตรุษจีน จึงทำให้คนส่วนใหญ่จะตั้งโต๊ะหมู่บูชาองค์ไฉ่ซิงเอี้ยเป็นองค์แรกของวันตรุษจีน เพราะเชื่อว่าจะนำความมั่งมีศรีสุข โชคลาภเงินทอง ความสุขสมหวัง และความร่ำรวยมาสู่ผู้คนในบ้านนั่นเอง
หลักการตั้ง : ทิศในการตั้งโต๊ะบูชาของแต่ละปีก็จะแตกต่างกันออกไป สำหรับการบูชาในบ้านให้ตั้งองค์เทพหันหลังไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อรับพลังดีตามหลักฮวงจุ้ย หรือจะวางไว้บนโต๊ะทำงานหรือตู้เซฟก็ได้ แต่ระวังอย่าวางไว้ต่ำเกินไป และต้องไม่วางสูงกว่าพระพุทธรูปด้วย
5. พระสังกัจจายน์

พระสังกัจจายน์ (Laughing Buddha) เป็นรูปปั้นพระที่อ้วนท้วมสมบูรณ์ ใบหน้ายิ้มแย้มมีความสุข และถือเงินในมือเพื่อแสดงถึงความร่ำรวย จึงถือเป็นเทพแห่งโชคลาภ โดยเชื่อกันว่า พระสังกัจจายน์เป็นพระพุทธสาวกองค์หนึ่งที่มีความรู้ ความสามารถ และมีชื่อเสียงโด่งดังในพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน ถ้าหากใครบูชาพระสังกัจจายน์ที่บ้าน จะช่วยเรื่องการงาน การเงิน ความมั่งคั่ง และความสำเร็จ
หลักการตั้ง : วางพระสังกัจจายน์ในบริเวณที่มองเห็นได้ชัด เช่น ห้องรับแขก ห้องทำงาน หรือใกล้ประตูบ้าน และจัดให้หันหน้าออกเพื่อต้อนรับสิ่งดี ๆ พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงการวางในจุดไม่เป็นมงคล เช่น ห้องน้ำหรือใต้บันได
เรื่องที่น่าสนใจ
ป ร ะ เภ ท ข อ ง หว ยอ อ น ไ ล น์
แห ล่ง ขอหวย เหตุ การ ณ์เด็ดๆช่ วงที่ ผ่าน มา
ส ล า ก อ อ ม สิ น คื อ อ ะ ไ ร
ต้ น ต ะ เ คี ย น 3 พ่ อ แ ม่ ลู ก ไ ม่ เ ชื่ อ ต้ อ งเ ชื่ อ